วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

รายงานผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา


รายงานผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

 






 สำนักข่าวบีบีซี รายงานเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนว่า หลังจากนายบารัค โอบามา ชนะคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างขาดลอยแล้ว เขาก็ได้ควงมิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ พร้อมด้วยลูก ๆ ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่ศูนย์บัญชาการเลือกตั้งพรรคเดโมแครต นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เพื่อขอบคุณประชาชนชาวอเมริกัน และสร้างความเชื่อมั่น พร้อมขอให้ประชาชนเดินไปข้างหน้าด้วยกัน และมีความหวังต่ออนาคต
              โดยนายบารัค โอบามา ได้กล่าวว่า "ขอขอบคุณชาวอเมริกันที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดี และขอบคุณที่เลือกให้ผมได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง ซึ่งนั่นแสดงถึงความไว้ใจ เชื่อมั่นของประชาชน ที่จะให้ผมได้ทำหน้าที่นี้ต่อไปอีก 4 ปีข้างหน้า รวมถึงขอบคุณมิเชล โอบามา ที่ทำให้ผมเป็นผมได้ทุกวันนี้ ขอบคุณลูกสาวทั้ง 2 คน ซึ่งจะเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่ฉลาด และเข้มแข็งเหมือนกับแม่ของพวกเธอ และขอบคุณทุกคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้ และในคืนนี้ ชาวอเมริกันทุกคนได้เตือนให้ผมรู้ว่าเส้นทางของอเมริกานั้นลำบากแค่นั้น แต่ในขณะที่การเดินทางของอเมริกานั้นยังอีกยาวไกล ต้องลุกขึ้นหยัดยืนอีกครั้ง และพวกเราต่างรู้อยู่เต็มหัวใจว่า เราทำเพื่ออเมริกา สิ่งที่ดีที่สุดนั้นยังไม่มาถึง"

          "ผมได้คุยกับมิตต์ รอมนีย์ แล้ว เพื่อแสดงความยินดีที่ได้พ้นผ่านการหาเสียงที่ดุเดือดมาด้วยกัน ซึ่งถึงแม้ว่าเราจะเป็นคู่แข่งในการชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีครั้งนี้ แต่นั่นเป็นเพราะเราต่างรักอเมริกา เป็นห่วงอนาคตของอเมริกาเหมือนกัน และในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ผมกับรอมนีย์ก็จะพูดคุยกันเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศ เพื่อที่จะจับมือกันพาอเมริกาเดินก้าวไปข้างหน้า ประชาชนชาวอเมริกันทุกคน เราเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าต่อไปนี้เราจะทำอะไร จะไปที่ไหน เราจะหอบเอาความทรงจำ สิ่งที่เราเคยสร้างมันมาด้วยกันไปด้วย และคุณจะไม่ผิดหวังกับประธานาธิบดีคนนี้ ขอบคุณที่เชื่อมั่น ไม่ว่าจะต้องเจออะไร พวกคุณจะเป็นกำลังใจของผม และผมจะยินดีกับทุก ๆ อย่างที่ชาวอเมริกันได้ทำ"

          "อนาคตของอเมริกา เราอยากจะให้เด็ก ๆ ได้เติบโตขึ้นมา โดยได้รับการศึกษาในโรงเรียนที่ดีที่สุด ได้เรียนกับครูที่ดีที่สุด ในประเทศที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อที่จะให้พวกเขามีงานที่ดีในอนาคต และนั่นหมายถึงการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ด้วย เราอยากจะทำให้ประเทศของเราปลอดภัย กองกำลังสหรัฐฯ จะต้องแข็งแกร่งที่สุด ผมอยากให้เราเดินก้าวไปด้วยกัน และผมจะเดินหน้าร่วมมือกับพรรครีพับลิกัน แก้ปัญหาต่าง ๆ ในประเทศ เพราะตอนนี้มีอะไรหลาย ๆ ที่เราต้องทำ"

          นอกจากนี้ บารัค โอบามา ยังทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า "ชาวอเมริกันครับ ผมเชื่อว่าเราจะสามารถร่วมมือกันต่อสู้เพื่ออเมริกาด้วยกันได้ ผมเชื่อว่าเราจะรักษาสัญญาในการสร้างชาติของเราว่า หากเราจะต่อสู้ไปด้วยกันแล้ว ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นใคร มาจากไหน มีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร หรือรักที่ใดก็ตาม ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นคนขาว ดำ เป็นคนฮีสแปนิค เอเชีย หรือคนพื้นเมืองอเมริกัน หรือจะเด็ก จะแก่ จะรวย จะจน จะครบสามสิบสอง จะพิการ หรือเบี่ยงเบนทางเพศก็ตามแต่ คุณสามารถทำทุกอย่างให้เกิดขึ้นในอเมริกาได้ ถ้าหากคุณมีความพยายาม"



ชนะแล้ว! โอบามา นั่งผู้นำสหรัฐฯ ต่อ หลังคว้าคะแนนเกินครึ่ง


          ชนะแล้ว! บารัค โอบามา นั่งผู้นำสหรัฐฯ ต่อ หลังคะแนนทิ้งห่าง รอมนีย์ 303 ต่อ 203 เสียงแล้ว

          หลังจากคนทั่วโลกรอลุ้นผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด ล่าสุด ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ปรากฏออกมาแล้วอย่างไม่เป็นทางการว่า นายบารัค โอบามา ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ และได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 สร้างประวัติศาสตร์การเป็นประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตที่ชนะการเลือกตั้ง 2 สมัย นับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

          โดยจากการรายงานผลการเลือกตั้งล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน ตามเวลาประเทศไทย ปรากฏออกมาว่า นายบารัค โอบามา คว้าคะแนนเสียงอิเล็กทอรัล หรือคะแนนเสียงจากคณะเลือกตั้งทั่วสหรัฐฯ ไป 303 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง นับเป็นจำนวนเกินครึ่งแล้ว และกินขาด ขณะที่คะแนนเสียงล่าสุดของนายมิตต์ รอมนีย์ อยู่ที่ 203 เสียง ซึ่งแน่นอนว่า แม้ว่าอีกหลายรัฐที่ยังไม่ได้นับคะแนนเสียง จะเทคะแนนให้รอมนีย์ทั้งหมด รอมนีย์ก็ไม่มีทางตามบารัค โอบามาได้ทัน

  
        ทั้งนี้ สรุปผลการนับคะแนนเสียงอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏออกมาว่า บารัค โอบามา ชนะเลือกตั้งจากรัฐแคลิฟอร์เนีย (55 เสียง), รัฐโคโลราโด ( 9เสียง), รัฐคอนเนตทิคัต (7 เสียง), รัฐเดลาแวร์ (3 เสียง), รัฐฮาวาย (4 เสียง), รัฐอิลลินอยส์ (20 เสียง), รัฐแมสซาชูเซตส์ (11 เสียง), รัฐแมรีแลนด์ (10 เสียง), รัฐมิชิแกน (16 เสียง), รัฐมินนิโซตา (10 เสียง), รัฐเมน (4 เสียง), รัฐนิวแฮมป์เชียร์ (4 เสียง), รัฐนิวเจอร์ซีย์ (14 เสียง), รัฐนิวเม็กซิโก (5 เสียง), รัฐเนวาดา (6 เสียง) , รัฐนิวยอร์ก (29 เสียง), รัฐโอไฮโอ (18 เสียง), รัฐออริกอน (7 เสียง), รัฐเพนซิลเวเนีย (20 เสียง), รัฐโรดไอแลนด์ (4 เสียง), รัฐเวอร์มอนต์ (3 เสียง), รัฐเวอร์จิเนีย (13 เสียง), และรัฐวิสคอนซิน (10 เสียง), รัฐวอชิงตัน (12 เสียง)

          ส่วนนายมิตต์ รอมนีย์ นั้น ชนะเลือกตั้งในรัฐแอละแบมา (9 เสียง), รัฐอะแลสกา (3 เสียง), รัฐแอริโซนา (11 เสียง), รัฐอาร์คันซอ (6 เสียง), รัฐจอร์เจีย (16 เสียง), รัฐไอดาโฮ (4 เสียง), รัฐอินดีแอนา (11 เสียง), รัฐไอโอวา (6 เสียง), รัฐแคนซัส (6 เสียง), รัฐเคนทักกี (6 เสียง), รัฐลุยเซียนา (8 เสียง), รัฐมิสซูรี (10 เสียง), รัฐมิสซิสซิปปี (6 เสียง), รัฐมอนแทนา (3 เสียง), รัฐเนแบรสกา (5 เสียง), รัฐนอร์ทดาโคตา (3 เสียง), รัฐนอร์ทแคโรไลนา (15 เสียง), รัฐโอคลาโฮมา (7 เสียง), รัฐเซาท์แคโรไลนา (9 เสียง), รัฐเซาท์ดาโคตา (3 เสียง), รัฐเทนเนสซี (11 เสียง), รัฐเทกซัส (38 เสียง), รัฐยูทาห์ (6 เสียง), รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย (5 เสียง), และ รัฐไวโอมิง (3 เสียง)